[รีวิว] นั่งกินปู ดูนกเหยี่ยว ต้องมาเที่ยวบางชันน้อยโฮมสเตย์ จ.จันทบุรี

บางชันน้อยโฮมสเตย์

        เที่ยวกับโมโนครั้งนี้มาเปลี่ยนบรรยากาศกันมั้งนะครับ เพราะว่าครั้งนี้เราไปเที่ยวโฮมสเตย์แบบชิวๆกันมั้ง แบบว่ากินดีอยู่ดีวิถีชาวบ้านที่ บางชันน้อยโฮมสเตย์ ที่จังหวัดจันทบุรี  ถ้าขับรถจากกทม.ก็ถือว่ายังไหวอยู่มั้ง ไม่ใกล้ไม่ไกลมากเกินไป  แล้วถามว่าทำไมถึงต้องไปถึงจันทบุรีด้วยล่ะ  ที่นี่มันมีอะไรให้เที่ยว  ซึ่งหลักๆ ผมก็จะสโลแกนของบางชันน้อยโฮมสเตย์ ว่า "นั่งกินปู ดูนกเหยี่ยว เที่ยวจันทบุรี" นี้เลยครับหลักๆที่เราจะไปเจอกันในทริปนี้


        สำหรับการเดินทางข้างต้นที่ผมได้พูดไป คือ ต้องขับรถยาวๆไปถึงบางชันน้อยโฮมสเตย์เลยหรือไม่ก็นั่งเรือต่อไปที่โฮมสเตย์อีกที (แนะนำว่ารถต้องสูงๆหน่อยนะครับ) โดยที่พวกผมไปจากราชบุรีก็ใช้เวลาไปประมาณ 6-7 ชั่วโมงเลย  ช่วงแรกขับง่ายมากเลยขับตาม GPS ไปได้เลยครับ ถึงแน่นอน แต่พอมาถึงช่วงบางชันก็ขับตามป้ายเอาก็ได้ แต่ทางจะแคบลงและก็เป็นทางลูกรังก็ค่อยๆขับไปนะครับ  ถือว่าดูวิวสองข้างที่เป็นชุมชนชาวประมง (ที่ยังทำอยู่ แต่ส่วนนึงก็เปลี่ยนเป็นที่ท่องเที่ยว) ธรรมชาติสองข้างทาง ทั้งทิวของต้นหญ้าที่น่าลงไปถ่ายรูป  หรือแม้แต่ป่าโกงกางที่ขึ้นเต็มไปหมดทั้งสองข้างทางเลย  เหมือนกับว่าขับรถไปอีกที่ที่นึงเลย


      หลังจากกลับรถลัดเลาะเส้นทางเข้าสู่บางชันน้อยโฮมสเตย์แล้วเข้ามาจะเห็นป้ายสีสดใสรอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายเซลฟี่กันได้เลย


       พอจอดรถเสร็จก็สามารถเดินทางที่อาคารตามรูปได้เลย คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์ก็มายืนรอต้อนรับพวกเราแล้ว (ป้าเขาก็โทรมาหาเป็นระยะๆเลย) พร้อมกับอาหารหลากหลายอย่างรอให้พวกผมมากินกัน แต่วันนั้นพวกผมมาเลทหน่อย พี่ๆแม่ครัวรอนานเลย  แค่เดินทางนั่งโต๊ะก็มีน้ำเก็กฮวยมาเสิร์ฟให้กินกันแล้ว  เอาล่ะๆอย่าช้าไปดูอาหารกลางวันที่ทางบางชันน้อยโฮมสเตย์จัดไว้ให้เลย

   
       นี่ครับเวลาอาหารมื้อกลางวันของพวกเราก่อนออกไปเที่ยวกัน  จัดมาแบบแน่นๆเลย ไม่ว่าจะเป็นปูผัดผงกะหรี่ (อันนี้ชอบมาก แต่ออกหวานๆหน่อย) กุ้งตัวบิ๊กๆอบวุ้นเส้น ปลาทอดน้ำปลา น้ำพริกลนมันปู(อะไรสักอย่างนี่ล่ะ)กับผักสด และก็ต้มยำทะเลอีกอย่างนึง  มากันสี่คนจัดกันไปให้เต็มที่เลย  อาหารก็อร่อยดีครับ แต่มาแนวรสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจ้านนะ  ถือว่าสอบผ่านทั้งความอร่อยและคุ้มค่า


       พอกินข้าวอิ่มแล้วก็มาถึงการเอาของเข้าบ้านพักซึ่งมีหลายขนาดมาก ทั้งห้องเล็ก กลาง ใหญ่  พวกผมไปกันสี่คนก็อยู่ห้องเล็กตรงกลางเลย  อากาศดีที่อยู่กลางน้ำ  มีลมและไอเย็นพัดมาตลอดเวลา  ไม่ต้องกลัวร้อนเลย


       เข้ามาในห้องก็มีที่นอนแบบง่ายๆพร้อมหมอนและผ้าห่มรออยู่ 4 ชุดตามสมาชิก มีทีวีและก็ชั้นวางของให้อีกอัน ง่ายๆแบบนี่เลยครับกับการมานอนพักตามสไตล์โฮมสเตย์  ก็ถือว่าโอนะ  แต่ใครเป็นผู้เฒ่าก็อาจจะลำบากนิดนึงนะ ถ้าจะนอนพื้น



       ส่วนห้องน้ำห้องท่าก็บ้านหนึ่งหลังก็มีสองห้องเดินจากบ้านออกไปหน่อยก็ถึงแล้ว ถ้าไปกันแบบส่วนตัวก็ถือว่าไม่เป็นไรนะถ้ามีห้องน้ำแบบนอกห้อง  เสียอย่างเดียวที่เวลาเดินไปอาบน้ำตอนเช้มันจะหนาวๆหน่อย  แต่ที่นี่ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลนะ  แต่น้ำนี่อย่างแรงเลย แถมสภาพก็ยังดูใหม่มาก  เอาไปสามผ่านเลยเรื่องห้องน้ำ


        เมื่อได้เก็บของเข้าห้องเรียบร้อยแล้วก็นอนพักกันอีกครู่ใหญ่เลย  เพราะว่าต้องรออีกกลุ่มนึงที่จะมาด้วยกัน ไม่เป็นไรเราเดินทางไกลก็พักเอาแรงหน่อย พอถึงเวลาสักบ่ายสามก็เตรียมตัวให้พร้อม เปลี่ยนชุดพร้อมเปียก ใส่เสื้อชูชีพ กระโดดลงแพเปียกไปเลย  ใครจะเอาอะไรขึ้นไปกินก็ตามใจ  แพใหญ่มาก  มีเพลงตึดๆๆ ใครจะลัลล้ายังไงก็จัดไป


        เริ่มต้นออกเดินทางบนแพเปียกกันเลย  ใครอยากจะนั่งบนแพก็นั่ง  นั่งบนเก้าอี้ไม้ก็นั่ง หรือจะอินดี้นั่งบนเรือคายัคก็นั่ง  หรือจะแบบผมที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำไปก็ได้ตามใจ  ฟังเพลงเพลินๆ ชมบรรยากาศริมสองข้างทางที่สวยงาม  เต็มไปด้วยต้นไม้ สายน้ำ และสองคน(เหรอ)


        ลองพากายพาใจให้ไหลไปกับสายน้ำบ้าง  เอาหน้าจอมือถือออกไปบ้าง  มาสัมผัสกับกลิ่นไอของธรรมชาติ (โดยเฉพาะกลิ่นไอเกลือจากน้ำ 555+) ดูเหมือนว่าจะร้อน แต่ก็ไม่ร้อนมาก  ลมพัดตลอด  ช่วงนี้ไม่มีอะไรก็ชมต้นไม้และสายน้ำไปพลางๆก่อน


       หลังจากนั่งเรือมาได้สักพัก  ก็มาถึงจุดไฮไลของทริปบางชันน้อยโฮมสเตย์แล้วก็คือ ดูนกเหยี่ยว เป็นนกเหยี่ยวสีขาว ตัวไม่ใหญ่มากที่ออกมาโฉบหาอาหาร ก็ถือว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากเลยนะครับ  เพราะว่าบางช่วงนี่เหยี่ยวเยอะมาก และบางครั้งก็โฉบเข้ามาใกล้มาก  มันดูยังสง่างามและเท่ไปอีกแบบ  ถือว่าครั้งนึงเคยมาก็ไม่เสียเที่ยวแล้ว


       จุดต่อมาก็ทริปนี้จัดไว้คือ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน หรือหมู่บ้านกลางน้ำ นั่นล่ะ เมื่อขึ้นไปหมู่บ้านนี่ก็มีความหลากหลายของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านที่ประกอบอาชีพชาวประมง จะมีกุ้ง/ปลาตากแห้งไว้ มีตาข่ายหรืออุปกรณ์หาปลาวางอยู่ หรือบางส่วนก็มีร้านค้า/ร้านอาหารแบบบนบกก็มีเช่นกัน  ไม่แม้แต่มีที่พักสวยๆแนวๆอยู่ในหมู่บ้านก็มี  ถือว่าครั้งหนึ่งได้มาก็น่าจะลองไปเดินเที่ยวดู


      พอได้เดินเที่ยวที่หมู่บ้านไร้แผ่นดินจนหายอยากแล้ว  กิจกรรมต่อมาก็ต้องไปพายเรือคายัคที่ทางโฮมสเตย์จัดมาให้  คราวนี้รู้ล่ะว่าใครพายเรือเป็นหรือไม่เป็น  ก็พายไม่ยากครับ  สนุกดี  จะพายโต้คลื่นหรือพายเที่ยวไปเรื่อย  หรือถ้าใครขี้เกียจพายจะลงเล่นน้ำก็ได้ไม่ว่ากัน  แต่ผมว่าน้ำมันดูเค็มไปหน่อยเลยไม่ได้ลงไปเล่น  หรือถ้าใครไม่อยากทำไรเลยก็นอนตากลมหรือจะหาขนมมากินก็ได้ไม่ว่ากัน


       หลังจากกลับจากการไปดูเหยี่ยว พายเรือคายัคแล้วก็นั่งแพกลับมาที่บางชันน้อยโฮมสเตย์  อาบน้ำอาบท่าล้างตัว  นอนอืดอีกสักหน่อย  จากนั้นก็มาจัดมื้อเย็นชุดใหญ่ต่อ  เมนูอาหารก็คงไม่ต้องบอกว่า ทริปนี้พี่มากินปู  ก็มีปูทะเลนึ่ง ซึ่งคุณป้าเจ้าของก็เห็นว่าชอบกันก็แถมมาให้อีกตัวนึง  สดดี น้ำจิ้มก็แจ่ม  ต่อมาอีกอย่างคือ ปลาราดพริก ดูเหมือนเครื่องจะน้อย แต่อร่อยมาก  และเมนูอื่นๆก็ยังมีกุ้งเผา หอยนางรมสด กุ้งแช่น้ำปลา ทอดมัน  และปิดท้ายด้วยผลไม้อีกหนึ่งจาน  แต่ละคนจัดกันไปอย่างแน่นเลย


       หลังจากที่ตื่นนอนมา หรือบางคนอาจจะไม่ได้นอนจากการทำกิจกรรมบางอย่างก็ตาม (ร้องคาราโอเกะ ดูทีวี ไรแบบนี้ อิอิ) ก็ต้องตื่นมากินมื้ออีกครั้ง ก็เป็นเมนูเบาๆ คือ ข้าวต้มปลา+หอยนางรม กับผัดไทเส้นจัน  ที่รสชาติแปลกดี อร่อยแบบไม่เหมือนที่ไหนอ่ะ  เผ็ดๆหวานๆ  กินกับข้าวต้มนี่โอเลย  ถือว่าเป็นการตุนเสบียงเข้าท้องที่ดีก่อนออกเดินทาง  ก่อนจะกลับก็ไปจัดการค่าใช้จ่ายของพวกผมของทริปนี้ อยู่ที่คนละ 1,700 บาท ไปกัน 4 คน (ราคาขึ้นกับจำนวนคนที่ไปด้วย) ถือว่าคุ้มค่านะ ไม่แพงไม่ถูก  อิ่มจนแน่นทุกมื้อ  รวมทั้งเจ้าของโฮมสเตย์และพนักงานก็คอยมาพูดคุยและดูแลเป็นอย่างดี เหมือนเป็นคนกันเองเลย   สำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสประสบการณ์แบบผมก็ลองไปกันได้นะ  โดยสามารถโทรไปจองได้ที่เบอร์ 084-375-0022 หรือจะลองทักหรือดูรีวิวอื่นๆได้ที่เพจของ บางชันน้อยโฮมสเตย์ ได้ที่ลิ๊งค์นี้เลย https://www.facebook.com/bangchannoihomestay/  สำหรับผมก็คงต้องลาไปก่อน  ไว้ทริปหน้าเจอกันใหม่ครับ

Previous
Next Post »